เมนู

6. ได้ทรงศึกษาทรงสดับเรื่องนั้น ๆ มาก
7. ทรงทราบอรรถแห่งข้อที่ทรงศึกษาและภาษิตนั้น ๆว่า นี้ อรรถ
แห่งภาษิตนี้ นี้อรรถแห่งภาษิตนี้
8. ทรงเป็นบัณฑิต เฉียบแหลม ทรงพระปรีชาสามารถทรงพระ-
ราชดำริอรรถอันเป็นอดีต อนาคต และปัจจุบันได้.
พระเจ้ามหาวิชิตราช ทรงประกอบด้วยองค์ 8 ประการ ดังกล่าว
มานี้. องค์ 8 ประการ แม้เหล่านี้ จัดเป็นบริวารแห่งยัญนั้นโดยแท้ด้วย
ประการฉะนี้.
[209] พราหมณ์ปุโรหิต ประกอบด้วยองค์ 4 ประการ
1. เป็นอุภโตสุชาต ทั้งฝ่ายมารดาและบิดา มีครรภ์เป็นที่ถือปฏิ-
สนธิหมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน ไม่มีใครจะคัดค้าน ติเตียนด้วยการกล่าวอ้าง
ถึงชาติได้
2. เป็นผู้คงแก่เรียน ทรงจำมนต์รู้จบไตรเพทพร้อมทั้งคัมภีร์
นิฆัณฑุ คัมภีร์เกตุภะ พร้อมทั้งประเภทอักษร มีคัมภีร์อิติหาสเป็นที่ 5
เป็นผู้เข้าใจตัวบท เป็นผู้เข้าใจไวยากรณ์ ชำนาญในคัมภีร์โลกายตะ และ
มหาปุริสลักษณะ
3. เป็นผู้มีศีล มีศีลยั่งยืน ประกอบด้วยศีลยั่งยืน
4. เป็นบัณฑิต เฉียบแหลม มีปัญญาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ของพวก
ปฏิคาหกผู้รับบูชาด้วยกัน.
พราหมณ์ปุโรหิต ประกอบด้วยองค์ 4 ดังแสดงมานี้. องค์ 4
ประการเหล่านี้ จักเป็นบริวารแห่งยัญนั้นโดยแท้ ด้วยประการฉะนี้.

ยัญสัมปทา 3 มีบริวาร 16


[210] ดูก่อนพราหมณ์ ลำดับนั้นแล พราหมณ์ปุโรหิต ได้แสดง
ยัญวิธี 3 ประการ ถวายพระเจ้ามหาวิชิตราช ก่อนทรงบูชายัญว่า

1. เมื่อพระองค์ทรงบูชายัญอยู่ ความวิปฏิสารบางอย่างพึงมีว่า กอง
โภคสมบัติใหญ่ของเราจักหมดเปลืองดังนี้ พระองค์ไม่ควรทรงทำความ
วิปฏิสารเช่นนั้น
2. เมื่อพระองค์ทรงบูชามหายัญอยู่ ความวิปฏิสารบางอย่างพึงมีว่า
กองโภคสมบัติใหญ่ของเรากำลังหมดเปลืองไปอยู่ ดังนี้ พระองค์ไม่ควร
ทรงทำความวิปฏิสารเช่นนั้น
3. เมื่อพระองค์ทรงบูชามหายัญอยู่ ความวิปฏิสารบางอย่างพึงมีว่า
กองโภคสมบัติใหญ่ของเราได้หมดเปลืองไปแล้วดังนี้ พระองค์ไม่ควรทรง
ทำความวิปฏิสารเช่นนั้น.
ดูก่อนพราหมณ์ พรหมณ์ปุโรหิตได้แสดงยัญวิธี 3 ประการดังแสดง
มานี้ ถวายพระเจ้ามหาวิชิตราชก่อนทรงบูชายัญทีเดียว.
[211] ดูก่อนพราหมณ์ ลำดับนั้น พราหมณ์ปุโรหิตได้กำจัดความ
วิปฏิสาร ของพระเจ้ามหาวิชิตราช เพราะพวกปฏิคาหกโดยอาการ 10
ประการก่อนทรงบูชายัญ.
1. พวกคนทำปาณาติบาตก็ดี พวกที่งดเว้นจากปาณาติบาตก็ดี
ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์. ในชนเหล่านั้น จำพวกที่ทำปาณา-
ติบาต จักได้รับผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์ทรงปรารภเฉพาะ
ที่งดเว้นจากปาณาติบาตเท่านั้นแล้วทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา
ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[212] 2. พวกคนที่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ก็ดี พวกที่
งดเว้นจากการเอาถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้ก็ดี ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระ
องค์ในชนเหล่านั้น จำพวกที่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ จักได้รับ
ผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์จงทรงปรารภเฉพาะที่งดเว้นจากการ

ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้เท่านั้น แล้วทรงบูชา ทรงบริจาค ทรง
อนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[213] 3. พวกคนที่ประพฤติผิดในกามทั้งหลายก็ดี พวกที่งดเว้น
จากการประพฤติผิดในกามทั้งหลายก็ดี ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ใน
ชนเหล่านั้น จำพวกที่ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย จักได้รับผลเพราะกรรม
ของเขาเอง ขอพระองค์จงทรงปรารภเฉพาะพวกที่งดเว้นจากการประพฤติ
ผิดในกามทั้งหลาย เหล่านั้นแล้วทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา
ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[214] 4. พวกที่กล่าวคำเท็จก็ดี พวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำเท็จ
ก็ดี ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้น จำพวกที่กล่าวคำ
เท็จ จักได้รับผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์จงทรงปรารภเฉพาะ
พวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำเท็จเท่านั้น แล้วทรงบูชา ทรงบริจาค ทรง
อนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[215] 5. พวกที่กล่าวคำส่อเสียดก็ดี พวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำ
ส่อเสียดก็ดี ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้น จำพวกที่
กล่าวคำส่อเสียด จักได้รับผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์ทรง
ปรารภเฉพาะพวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำส่อเสียดเท่านั้น แล้วทรงบูชา
ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[216] 6. พวกที่กล่าวคำหยาบก็ดี พวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำ
หยาบคาย ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้น จำพวกที่
กล่าวคำหยาบจักได้รับผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์จงทรงปรารภ
เฉพาะพวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำหยาบเท่านั้น แล้วทรงบูชา ทรงบริจาค
ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.

[217] 7. พวกที่กล่าวคำเพ้อเจ้อก็ดี พวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำ
เพ้อเจ้อก็ดี ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้น จำพวกที่
กล่าวคำเพ้อเจ้อ จักได้รับผลเพราะกรรมของเขาเอง พระองค์ทรงปรารภ
เฉพาะพวกที่งดเว้นจากการกล่าวคำเพ้อเจ้อเท่านั้น แล้วทรงบูชา ทรงบริ-
จาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[218] 8. พวกที่โลภอยากได้ของของผู้อื่นก็ดี พวกที่ไม่โลภอยาก
ได้ของของผู้อื่นก็ดี ต่างก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้นจำพวก
ที่โลภอยากได้ของผู้อื่นจักได้รับผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์
จงทรงปรารภเฉพาะพวกที่ไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่นเท่านั้น แล้วทรง
บูชายัญ ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายใน
เถิด.
[219] 9. พวกที่มีจิตพยาบาทก็ดี พวกที่มีจิตไม่พยาบาทก็ดี ต่าง
ก็จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้น จำพวกที่มีจิตพยาบาท จัก
ได้รับผลกรรมของเขาเอง ขอพระองค์จงทรงปรารภเฉพาะพวกที่มีจิตไม่
พยาบาทเท่านั้น แล้วทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระ
ทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[220] 10. พวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิก็ดี พวกที่เป็นสัมมาทิฏฐิก็ดี ต่างก็
จักมาสู่ยัญพิธีของพระองค์ ในชนเหล่านั้น จำพวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ จักได้
รับผลเพราะกรรมของเขาเอง ขอพระองค์จงทรงปรารภเฉพาะพวกที่เป็น
สัมมาทิฏฐิเท่านั้น แล้วทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระ
ทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด. ดูก่อนพราหมณ์ พราหมณ์ปุโรหิตได้กำจัด
ความวิปฏิสารของพระเจ้ามหาวิชิตราช เพราะพวกปฏิคาหก โดยอาการ
10 ประการ ดังแสดงมานี้แล ก่อนทรงบูชาทีเดียว.

[221] ดูก่อนพราหมณ์ ลำดับนั้น พราหมณ์ปุโรหิตได้ยังพระทัย
ของพระเจ้ามหาวิชิตราฃ ซึ่งทรงบูชามหายัญอยู่ ให้ทรงเห็นแจ้ง ให้ทรง
สมาทาน ให้ทรงอาจหาญ ให้ทรงร่าเริง โดยอาการ 16 ประการ.
1. เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์ไม่ได้ทรงชักชวนเหล่า
อนุยนตกษัตริย์ ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท พระองค์ทรงบูชามหายัญ
เห็นปานนั้น แต่เฉพาะพระองค์. แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่า
กล่าวพระองค์ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์ก็ได้ทรงเรียกเหล่าอนุยนต-
กษัตริย์ ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท มาทรงปรึกษาแล้ว แม้ด้วย
ประการเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรง
บริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องในในภายในเถิด.
[222] 2. เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึง
กล่าวว่า พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงชักชวน
เหล่าอำมาตย์ราชบริพาร ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท พระองค์ทรงบูชา
มหายัญเห็นปานนั้น แต่เฉพาะพระองค์ แม้ด้วยประการเช่นนี้ก็มิได้มีผู้ว่า
กล่าวพระองค์ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์ก็ได้ทรงเรียกเหล่าอำมาตย์ราช
บริพารซึ่งเป็นชาวนิคม และชาวชนบท มาทรงปรึกษาแล้ว แม้ด้วยประการ
เช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค
ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
3. เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์ก็มิได้ชักชวนเหล่า
พราหมณ์มหาศาล ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท พระองค์ทรงบูชามหา-
ยัญเห็นปานนี้แต่เฉพาะพระองค์ แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าว

พระองค์ได้โดยธรรม เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกพราหมณ์มหาศาล ซึ่ง
เป็นชาวนิคม และชาวชนบท มาทรงปรึกษาแล้ว แม้ด้วยประการเช่นนี้
ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุ-
โมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
4.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงชักชวนเหล่า
คฤหบดีผู้มั่งคั่ง ซึ่งเป็นชาวนิคม และชาวชนบท พระองค์ทรงบูชามหายัญ
เห็นปานนั้น เฉพาะพระองค์. แม้ด้วยประการเช่นนี้ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระ
องค์ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกเหล่าคฤหบดีผู้มั่งคั่ง ซึ่ง
เป็นชาวนิคม และชาวชนบทมาทรงปรึกษาแล้ว. แม้ด้วยประการเช่นนี้
ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุ-
โมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[223] 5.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึง
กล่าวว่า พระเจ้าวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้เป็นกษัตริย์
อุภโตสุชาต ทั้งฝ่ายพระมารดาและพระบิดา มิได้มีพระครรภ์เป็นที่ทรง
ถือปฏิสนธิหมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน เป็นผู้อันใคร ๆ คัดค้านติเตียน
ด้วยการกล่าวอ้างถึงพระชาติได้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรง
บูชามหายัญเห็นปานนั้น. แม้ด้วยประการเช่นนี้ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์
ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์ทรงเป็นอุภโตสุชาต ทั้งฝ่ายพระมารดา
และพระบิดา มีพระครรภ์เป็นที่ถือปฏิสนธิหมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน
ไม่มีใครคัดค้านติเตียนด้วยการกล่าวอ้างถึงพระชาติได้. แม้ด้วยประการ
เช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค
ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.

[224] 6.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึง
กล่าวว่า พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มีพระรูปไม่
งาม ไม่น่าดู ไม่น่าเลื่อมใส ไม่ทรงประกอบด้วยพระฉวีวรรณอันผุดผ่อง
มิได้ทรงมีพระฉวีวรรณคล้ายพรหม มิได้ทรงมีพระรูปคล้ายพรหม ไม่น่าดู
ไม่น่าชมเสียเลย และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรงบูชามหายัญ เห็นปาน
นั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้ โดยธรรม. เพราะ
พระองค์ทรงมีพระรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใสทรงประกอบด้วยพระฉวีวรรณ
ผุดผ่องยิ่งนักทรงมีพระฉวีวรรณคล้ายพรหม ทรงมีพระรูปคล้ายพรหม น่าดู
น่าชมมิใช่น้อย แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอ
พระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใส
ในภายในเถิด.
7.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราช ทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงเป็นกษัตริย์ที่
มั่งคั่ง มีพระราชทรัพย์มาก มีโภคสมบัติมาก มีทองและเงินมาก มีเครื่อง
ใช้สอยน่าปลื้มใจมาก มีทรัพย์และข้าวเปลือกมาก มีท้องพระคลังมาก
ฉางเต็มบริบูรณ์ และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรงบูชามหายัญ เห็น
ปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้โดยธรรม.
เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้มั่งคั่ง มีพระราชทรัพย์มาก มีโภคทรัพย์
มาก มีทองและเงินมาก มีเครื่องใช้สอยน่าปลื้มใจมาก มีทรัพย์และข้าว
เปลือกมาก มีท้องพระคลังและฉางเต็มบริบูรณ์ แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอ
พระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา
ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.

8.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงเป็นกษัตริย์มีกำลัง
มิได้ทรงสมบูรณ์ด้วยเสนามีองค์ 4 ซึ่งอยู่ในวินัย คอยปฏิบัติตามคำสั่ง
มิได้ทรงมีพระบรมเดชานุภาพดังว่าจะเผาผลาญศัตรูได้ ด้วยพระราชอิสริย-
ยศ และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรงบูชามหายัญ เห็นปานนั้น แม้
ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์
ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีกำลัง ทรงสมบูรณ์ด้วยเสนามีองค์ 4 ซึ่งอยู่ในวินัย คอย
ปฏิบัติตามคำสั่ง ทรงมีพระบรมเดชานุภาพดังว่าจะเผาผลาญราชศัตรูได้
ด้วยพระราชอิสริยยศ แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด
ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้
ผ่องใสในภายในเถิด.
9.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า พระ
เจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี
ศรัทธา มิได้ทรงเป็นทายก มิได้ทรงเป็นทานบดี มีประตูปิด มิได้
เป็นดุจบ่อที่ลงดื่มของสมณะและพราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพก
ยาจก มิได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรง
บูชามหายัญ เห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์
ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีศรัทธา ทรงเป็นทายก
เป็นทานบดี มิได้ทรงปิดประตู เป็นดุจบ่อที่ลงดื่มของสมณะและ
พราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพก ยาจก แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอ
พระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา
ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.

10.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรง
ศึกษา ทรงสดับเรื่องนั้น ๆ มาก และเมื่อเป็นเช่นนี้พระองค์ก็ยังทรงบูชา
มหายัญเห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้
โดยธรรม. เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ได้ทรงศึกษาทรงสดับเรื่องนั้นๆ
มาก แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์ จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์ทรง
บูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
11.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงทราบอรรถแห่ง
ข้อที่ทรงศึกษาและภาษิตนั้น ๆ ว่า นี้อรรถแห่งภาษิตนี้ นี้อรรถแห่ง
ภาษิตนี้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรงบูชามหายัญเห็นปานนั้น แม้
ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์
ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงทราบอรรถแห่งข้อที่ทรงศึกษาและภาษิตนั้น ๆ ว่า นี้
อรรถแห่งภาษิตนี้ แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์ จงทรงทราบเถิด ขอ
พระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่อง
ใสในภายในเถิด.
12.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พระองค์มิได้ทรงเป็นบัณฑิต มิได้
ทรงเฉียบแหลม มิได้ทรงพระปรีชา มิได้สามารถจะทรงดำริถึงอรรถ
อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันได้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรง
บูชามหายัญเห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์
ได้โดยธรรม. เพราะพระองค์ทรงเป็นบัณฑิต ทรงเฉียบแหลม ทรงมีพระ
ปรีชาสามารถที่จะทรงดำริถึงอรรถอันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันได้

แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา
ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
[225] 13.- เมื่อพระองค์ทรงบูชามหายัญ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์มิได้
เป็นอุภโตสุชาต ทั้งฝ่ายมารดา และบิดา มิได้มีครรภ์เป็นที่ถือปฏิสนธิ
หมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน เป็นผู้อันใคร ๆ กล่าวคัดค้านติเตียนไม่ได้ด้วย
การกล่าวอ้างถึงชาติ และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรงบูชามหายัญ
เห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้โดยธรรม.
เพราะพราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์เป็นอุภโตสุชาต มีครรภ์เป็นที่ถือปฏิ-
สนธิหมดจดดีตลอด 7 ชั่วคน ไม่มีใครจะคัดค้านติเตียนได้ด้วยการ
กล่าวอ้างถึงชาติ แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอ
พระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงอนุโมทนา ทรงทำพระทัยให้ผ่องใส
ในภายในเถิด.
[226] 14.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญ ใครๆ จะพึงกล่าว
ว่า พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์
มิได้เป็นผู้คงแก่เรียน มิได้ทรงจำมนต์ มิได้รู้จบไตรเพทพร้อมทั้งคัมภีร์
นิฆัณฑุ คัมภีร์เกตุภะพร้อมทั้งประเภทอักษรมีคัมภีร์อิติหาสเป็นที่ 5 มิได้
เป็นผู้เข้าใจตัวบท มิได้เป็นผู้เข้าใจไวยากรณ์ มิได้ชำนาญในคัมภีร์
โลกายตะ และมหาปุริสลักษณะ และเมื่อเป็นเช่นนี้พระองค์ก็ยังทรงบูชา
มหายัญเห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์ได้
โดยธรรม. เพราะพราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์เป็นผู้คงแก่เรียน ทรงจำ-
มนต์รู้จบไตรเพท พร้อมทั้งคัมภีร์นิฆัณฑุ คัมภีร์เกตุภะ พร้อมทั้งประ-
เภทอักษร มีคัมภีร์อิติหาสเป็นที่ 5 เป็นผู้เข้าใจตัวบท เป็นผู้เข้าใจ

ไวยากรณ์ ชำนาญในคัมภีร์โลกายตะ และมหาปุริสลักษณะ แม้ด้วยประ-
การเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรง
บริจาค ทรงบันเทิง ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
15.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์มิได้
เป็นผู้มีศีล มิได้มีศีลยั่งยืน มิได้ประกอบด้วยศีลยั่งยืน และเมื่อเป็นเช่นนี้
พระองค์ก็ยังทรงบูชามหายัญเห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้
ว่ากล่าวพระองค์ได้โดยธรรม. เพราะพราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์ เป็นผู้
มีศีล มีศีลยั่งยืน ประกอบด้วยศีลยั่งยืน แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระ-
องค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา ทรงบริจาค ทรงบันเทิง ทรง
ทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด.
16.- เมื่อพระองค์กำลังทรงบูชามหายัญอยู่ ใคร ๆ จะพึงกล่าวว่า
พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงบูชามหายัญ แต่พราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์มิได้
เป็นบัณฑิต มิได้เป็นผู้เฉียบแหลม มิได้มีปัญญา มิได้เป็นที่ 1 หรือที่ 2
ในพวกปฏิคาหกผู้รับบูชาด้วยกัน และเมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็ยังทรง
บูชามหายัญเห็นปานนั้น แม้ด้วยประการเช่นนี้ ก็มิได้มีผู้ว่ากล่าวพระองค์
ได้โดยธรรม. เพราะพราหมณ์ปุโรหิตของพระองค์เป็นบัณฑิต เป็นผู้เฉียบ-
แหลม มีปัญญา เป็นที่ 1 หรือที่ 2 ในพวกปฏิคาหกผู้รับบูชาด้วยกัน
แม้ด้วยประการเช่นนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเถิด ขอพระองค์จงทรงบูชา
ทรงบริจาค ทรงบันเทิง ทรงทำพระทัยให้ผ่องใสในภายในเถิด. ดูก่อน
พราหมณ์ พราหมณ์ปุโรหิตได้ยังพระทัยของพระเจ้ามหาวิชิตราผู้ทรงบูชา
มหายัญอยู่ให้ทรงเห็นแจ้ง ให้ทรงสมาทาน ให้ทรงอาจหาญ ให้ทรงร่าเริง
โดยอาการ 16 ประการ ดังแสดงมานี้แล.

[227] ดูก่อนพราหมณ์ในยัญนั้น ไม่ต้องฆ่าโค แพะ แกะ ไก่
สุกร และสัตว์นานาชนิด ไม่ต้องตัดต้นไม้มาทำเป็นหลักยัญ ไม่ต้องเกี่ยว
หญ้าคามาเพื่อเบียดเบียนสัตว์อื่น ๆ แม้ชนเหล่าใดที่เป็นทาส เป็นคนใช้
เป็นกรรมกร ของพระเจ้ามหาวิชิตราชนั้น ชนเหล่านั้นก็มิได้ถูกอาญาคุก-
คาม มิได้ถูกภัยคุกคาม มิได้มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้กระทำการงาน.
ที่จริงคนที่ปรารถนาจะกระทำจึงกระทำ ไม่ปรารถนา ก็ไม่ต้องกระทำ.
ปรารถนาจะกระทำการงานใด ก็กระทำการงานนั้น ไม่ปรารถนาจะกระทำ
การงานใด ไม่ต้องกระทำการงานนั้น และยัญนั้นได้สำเร็จแล้วด้วยลำ-
พังเนยใส น้ำมัน เนยข้น นมส้ม น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เท่านั้น.
[228] ดูก่อนพราหมณ์ ลำดับนั้นแล พวกอนุยนตกษัตริย์ซึ่งเป็นชาว
นิคมและชาวชนบท พวกอำมาตย์ราชบริพาร ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาว
ชนบท พวกพราหมณ์มหาศาล ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท พวกคฤห-
บดีผู้มั่งคั่ง ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท ต่างก็พากันนำทรัพย์มากมายมา
เข้าไปเฝ้าพระเจ้ามหาวิชิตราช กราบทูลว่า ขอเดชะ พวกข้าพระพุทธเจ้า
ได้นำทรัพย์มากมายนี้มาถวายเฉพาะพระองค์ ขอพระองค์จงทรงรับเถิด
พระเจ้ามหาวิชิตราชตรัสว่า อย่าเลยพ่อ แม้ทรัพย์เป็นอันมากนี้ของข้าพ-
เจ้าก็ได้รวบรวมมาแล้วจากภาษีอากรที่เป็นธรรม ทรัพย์ที่ท่านนำมานั้น จง
เป็นของพวกท่านเถิด ก็และท่านจงนำทรัพย์จากที่นี้เพิ่มไปอีก อนุยนต-
กษัตริย์เป็นต้นเหล่านั้นถูกพระราชาปฏิเสธ ต่างพากันหลีกไป ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง คิดร่วมกันอย่างนี้ว่า การที่พวกเราจะรับทรัพย์เหล่านี้คืน
ไปบ้านของตน ๆ อีกนั้น ไม่เป็นการสมควรแก่พวกเราเลย พระเจ้า
มหาวิชิตราชกำลังทรงบูชามหายัญอยู่ เอาเถอะ พวกเรามาบูชายัญตามเสด็จ
พระองค์บ้าง.

[229] ดูก่อนพราหมณ์ ลำดับนั้นพวกอนุยนตกษัตริย์ซึ่งเป็นชาว
นิคมและชาวชนบท ได้เริ่มบำเพ็ญทานทางด้านบูรพาแห่งหลุมยัญ พวก
อำมาตย์ราชบริพาร ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท ได้เริ่มบำเพ็ญทานทาง
ด้านทักษิณแห่งหลุมยัญ. พวกพราหมณ์มหาศาลซึ่งเป็นชาวนิคมและชาว
ชนบท ได้เริ่มบำเพ็ญทานทางด้านปัจฉิมแห่งหลุมยัญ พวกคฤหบดีผู้มั่ง
คั่ง ซึ่งเป็นชาวนิคมและชาวชนบท ได้เริ่มบำเพ็ญทานทางด้านอุดรแห่ง
หลุมยัญ. ดูก่อนพราหมณ์ แม้ในยัญของอนุยนตกษัตริย์ เป็นต้นแม้เหล่า
นั้นไม่ต้องฆ่าโค แพะ แกะ ไก่ สุกร และสัตว์นานาชนิด ไม่ต้องตัด
ต้นไม้มาทำเป็นหลักยัญ ไม่ต้องเกี่ยวหญ้าคามาเพื่อเบียดเบียนสัตว์อื่น.
คนเหล่าใดที่เป็นทาสเป็นคนใช้ เป็นกรรมกร ของพวกอนุยนตกษัตริย์
เป็นต้นเหล่านั้น แม้คนเหล่านั้นก็มิได้ถูกอาชญาคุกคามมิได้ถูกภัยคุกคาม
มิได้มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้ทำการงาน. ที่จริง คนที่ปรารถนาจะ
กระทำจึงกระทำ ที่ไม่ปรารถนาก็ไม่ต้องกระทำ. ปรารถนาจะกระทำการ
งานใด ก็กระทำการงานนั้น ไม่ปรารถนาจะกระทำการงานใด ก็ไม่ต้อง
กระทำการงานนั้น. ยัญนั้นได้สำเร็จแล้ว ด้วยลำพังเนยใส น้ำมัน เนยข้น
นมส้ม น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูก่อนพราหมณ์ สมัยนั้นเรา
ได้เป็นพราหมณ์ปุโรหิต ผู้อำนวยการบูชายัญของพระเจ้ามหาวิชิตราชนั้น.

นิตยทาน


[230] พราหมณ์กูฏทันตะทูลถามว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็
ยัญอย่างอื่นซึ่งใช้ทรัพย์น้อยกว่า มีการตระเตรียมน้อยกว่า และมีผลมาก
กว่า มีอานิสงส์มากกว่า กว่ายัญสมบัติทั้ง 3 ประการซึ่งมีบริวาร 16 นี้มี
อยู่หรือ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ มีอยู่ ยัญอย่างอื่น
ซึ่งใช้ทรัพย์น้อยกว่า มีการตระเตรียมน้อยกว่า และมีผลมากกว่า มี
อานิสงส์มากกว่า กว่ายัญสมบัติทั้ง 3 ประการ ซึ่งมีบริวาร 16 นี้.